A Quiet Word

ไม่มีอะไรใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์

HOPE CHURCH กรกฎาคม 8, 2012

Filed under: บทความศาสนา,Uncategorized — Korkai @ 4:44 pm

 เรื่องจากคุณ Penguin 

 ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้

จริงๆแล้วโบสถ์ที่ระบุไว้นั้น ขออนุญาตใช้เรียกอีกชื่อว่าโบสถ์แซ่หวังนะครับ (ใช้ชื่อเล่นเพราะว่าผมอาจจะถูกเล่นงานได้นะครับ) …
ในฐานะที่ผมเป็นผู้บันทึกที่สัตย์ซื่อ ผมขออนุญาตอธิบายให้ฟังในมุมที่ผมเข้าใจอย่างนี้นะครับ …

เดิมที่แซ่หวังของเราได้มีปัญหาความคิดไม่ลงรอยกับสหกิจ และในสมัยยี่สิบกว่าปีก่อน
มันช่างยากมากที่จะตัดสินว่าการแตกแยกในสมัยครั้งกระนู้นเกิดจากอะไร
ในเวลานั้นโบสถ์แซ่หวังได้เริ่มมีการเติบโตทางด้านจำนวนสมาชิกอย่างมาก เกินกว่าโบสถ์สหกิจรวมๆกันเสียอีกนะครับ
ด็อกเตอร์ที่เป็น ศบ ในสมัยนั้นอธิบายว่ามันเกิดจากความอิจฉาของโบสถ์สหกิจต่อการที่พระเจ้าอวยพรโบสถ์แซ่หวังนะครับ
(จริงๆเรื่องมันซับซ้อนและที่ด็อกเตอร์บอกก็เป็นความจริงระดับนึงเลยครับ) เอาเป็นว่าเราแตกคอกันก็แล้วกันนะครับ 
แต่ก็ควรจะสังเกตว่าแม้ว่าจะผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว โบสถ์แซ่หวังก็ยังมีการติดต่อสื่อสารกับคริสตจักรอื่นอยู่
แต่การติดต่อสื่อสารนั้นได้สิ้นสุดแทบสิ้นเชิง เมื่อเกิดเหตุการณ์การกบฏของอาจารย์ที่่เป็นมือขวาของด็อกเตอร์ ด้วยสาเหตุที่บอกไม่ได้นะครับ
(ลองไปถามอาจารย์คนใหม่คนเดียวดูเองแล้วกันนะครับ)
เนื่องจากว่าครั้งนี้ ความผิดบาปของด็อกเตอร์ได้ถูกเปิดโปงโดยเทปลึกลับไปยังคริสตจักรต่างๆไปทั่ว
ด็อกเตอร์ไม่ได้บอกอะไรกับคนภายใต้เพียงแต่บอกว่าท่านถูกทรยศและบอกว่านี่เป็นเหมือนกับนุ่นที่เมื่อถูกลมพัดปลิวไปแล้ว
เราก็ไม่สามารถที่จะตามเก็บมันได้ ชื่อเสียงที่สั่งสมมาก็ถูกทำลายด้วยคำพูดของคนชั่วร้าย และไม่สามารถจะเป็นเหมือนเดิมได้ 

ขณะนั้นเราไม่ทราบเลยว่า ความบาปของด็อกเตอร์คืออะไร
รู้แต่ว่าท่านไม่ยอมรับว่าท่านทำบาปอะไรลงไป ท่านเรียกตัวท่านเองว่าคนชอบธรรมนะครับ
ท่านเรียกร้องให้เราทั้งโบสถ์วางใจในตัวท่าน และเนื่องจากโบสถ์ก็ยังเจริญเติบโตด้านจำนวนคนอยู่ตลอดเวลา
เมื่ออธิษฐานก็เกิดการรักษาโรคอย่างอัศจรรย์ เราจึงคิดว่าในเมื่อการเจิมยังอยู่ ดังนั้นจริงๆแล้วท่านไม่น่าจะทำบาป น่าจะเป็นคนที่ไม่มีบาปเลยด้วยซ้ำครับ

สิ่งที่เราทราบคือ การติดต่อระหว่างโบสถ์เรากับโบสถ์อื่นสิ้นสุดลง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
เพราะว่าโบสถ์เรามีคนจำนวนมากมายจริงๆ จนแม้ว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆจากโบสถ์อื่น
โบสถ์เราก็สามารถอยู่ได้ และอยู่ได้อย่างเติบโตด้วยนะครับ

หลังจากนั้นด๊อกเตอร์ก็ค่อยๆถอนตัวออกไปจากการรับใช้ทุกๆอย่างของคริสตจักร
และต่อมา น้องสาวของท่านและสามีก็ก้าวขึ้นมาเป็น ศบ. แทนนะครับ ส่วนตัวท่านได้ไปทำงานอยู่เบื้องหลัง
ทำธุรกิจและงานวิชาการ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ครับ ซึ่งถัดมาก็กลายเป็นงานการเมืองครับ

สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์แซ่หวังก็คือ การเรียกร้องให้สมาชิกได้ทุ่มเททุกอย่างในการรับใช้นะครับ
ดังนั้นสมาชิกที่ถูกคัดเลือกจะให้ไปทุ่มเททำงานใหญ่ของด๊อกเตอร์ด้วยนะครับ
ซึ่งเราก็ภูมิอกภูมิใจอยู่เหมือนกันที่จะได้ทำงานใกล้ชิดกับคนเก่งๆอย่างท่าน …
เป็นเวลาหลายๆปีทีเดียวที่พวกเราหลายๆคนได้ไปทำงานเบื้องหลัง
แต่สิ่งที่ผมสามารถสังเกตได้ก็คือ งานเบื้องหลังที่พวกเราต้องไปทำโดยกินเงินเดือนน้อยๆ
ก็แทบจะไม่มีกำไร ไม่ได้มีผลกระทบกับสังคมอะไร นี่ก็เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจนะครับ

ส่วนคริสตจักรหลังการออกไปของด็อกเตอร์นั้น มีลักษณะดังนี้นะครับ คือส่วนของคริสตจักรที่อยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้เติบโตขึ้นเลย
ยังมีปริมาณคนอยู่ที่เดิมตลอดสิบกว่าปี แม้จะทำงานรับใช้มากๆ คนมาเชื่อปีนึงเป็นหมื่น แต่คนก็ออกไปจากคริสตจักรปีนึงเป็นหมื่นเหมือนกันนะครับ
ส่วนที่ต่างจังหวัดนั้น ผมพบว่ามีการขยายที่ค่อนข้างสูงมากครับ การเติบโตเท่าทวีคูณของคริสตจักรแซ่หวัง เป็นการเติบโตของโบสถ์ลูกที่ต่างจังหวัดนะครับ

เวลานั้นผมสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้ไม่มีความสุข แทนที่เราจะได้รับการอวยพรจากพระเจ้า
แต่เหมือนกับพระพรถูกอัดอั้นอยู่ ไม่ได้ไหลมาหาเราเหมือนปัจจุบันนี้นะครับ เหมือนกับว่าการเจิมได้หายไปจากโบสถ์นานแล้ว

ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้โบสถ์ต้องแตกกระสานซ่านเซ็นก็คือ การเมือง นะครับ …
ทางด๊อกเตอร์ได้มีความพยายามหลายรอบที่จะให้โบสถ์สนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองของท่าน ซึ่งเราก็ช่วยเหลือท่านเป็นอย่างดี
เป็นเวลา 3 รอบด้วยกันที่เราได้ลงแรงและถวายเงินเพื่อท่านจะได้ไปมีอิทธิพลทางบวกในด้านการเมือง และในครั้งที่ 3 นี้ ฟางเส้นสุดท้ายก็ทำให้โบสถ์ต้องแตกอย่างถาวรครับ

เมื่อโบสถ์แตกแล้ว (ในทัศนะของผมนะครับ) วินาทีที่โบสถ์แตก โบสถ์ได้แตกเป็น 5 ส่วนด้วยกันคือ 

– ผู้จงรักภักดีกับด๊อกเตอร์และ ศบ หุ่นเชิด
– ผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม
– ผู้ที่อยู่ตรงกลาง
– ผู้ที่แตกมาก่อนหน้านี้
– คริสตจักรลูกที่ต่างประเทศ

จริงๆแล้วเวลานั้น ดูเหมือนว่าคริสตจักรจะแยกเป็นสองส่วนหลักๆคือ ฝั่งด๊อกเตอร์ กับฝั่งตรงข้าม นะครับ

เมื่อคริสเตียนขัดแย้งกันจนโบสถ์แตก ในฝ่ายธรรมชาติเราจะเห็นว่า จะมีสงครามการแย่งชิงสมาชิก วิธีการแย่งชิงก็คือ
การชักชวนด้วยวิธีต่างๆเช่นการชวนไปฟังเทศน์ การเขียนโจมตีกันในเว็บเพื่อโน้มน้าวใจสมาชิก
จริงๆแล้วในวันนั้น มีเว็บแรกที่เป็นสมรภูมิการแย่งชิงสมาชิก แต่เว็บนั้นแตกพ่ายไปเสียก่อน
เว็บนี้เป็นเว็บที่สองที่สงครามในเวลานั้นลามมาถึง … ตัวผมในฐานะนักเขียน ก็ได้เขียนวิเคราะห์ไปตั้งมากมายพร้อมกับเพื่อนๆ แสดงถึงหลักฐานและเหตุผลต่างๆ
เพื่อหวังว่าเหล่าพี่น้องจะได้หลุดจากการครอบงำของด๊อกเตอร์ … นั่นเป็นสิ่งที่ผมกับหลายๆคนทำกันในเวลานั้น มันเป็นสงครามดีๆนี่เอง 


เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์

 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง Phukradung Thailand ตุลาคม 9, 2010

Filed under: ท่องเที่ยว — Korkai @ 2:11 pm

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง


 

It’s not easy ธันวาคม 13, 2009

Filed under: ไดอารี่ — Korkai @ 5:21 pm
Superman …It’s not easy

ฉันไม่ได้อยากเหาะไปมาทุกวัน ไม่ได้บื้อขนาดน๊าน
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหาตัวตนที่ดีกว่าที่เป็น
ฉันเป็นมากกว่านก เร็วกว่าเครื่องบิน
ไม่ได้เป็นแค่ตัวอะไรหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉัน

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง ซบหน้าลงกับแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัวถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่อย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน

ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่ก็อย่าได้ถือสา
ถึงเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นฉัน
บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ ที่วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ
ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา
ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง
ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

AND..4 of a Kind …It’s not easy

ฉันไม่ได้เอาแต่เล่น Texas Hold’em ทั้งวัน ไม่ได้ว่างขนาดน๊าน
ฉันก็แค่เล่นเพื่อค้นหา..Royal Flush ก่ะ Straight Flush
อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่อย่าหัวเราะ Hold’em ให้อะไรดีๆก่าที่คิด
อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเหนือ Full House ยังมี forth
เหนือไพ่ forth ก็ยังมี Straight Flush
และผู้ชนะในเกม อาจจะไม่มีไพ่ดีอยู่ในมือเลยก็ได้
ไม่มีใครจะหยิ่งได้นานบนโต๊ะ Poker
มันไม่ใช่แค่คาสิโน ไม่งั้นเจมส์บอนจะเล่นหรอ ??

ความจริงฉันเคยได้ Straight Flush
ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาตลกๆ
หามิตรภาพและเล่นโป๊กเกอร์บนโต๊ะตัวเดิม
ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นฉัน.

เล่นเป็นครับ แล้วก็โดยส่วนตัวก็ชอบมากที่สุดในบรรดาไพ่ทั้งหมดเลยแหละ
ผมมองว่าเป็นไพ่ชนิดหนึ่งที่ที่อาศัยสมอง อาศัยหัวใจด้วย ไม่ใช่โชคอย่างเดียว
ไม่ต้องมีอะไรในมือก็ชนะได้ ถ้านิ่งกว่าอีกฝ่าย แล้วก็อ่านเขาออกนะ
จากคุณ : น้ำใส

สนุกครับ Poker ใช้สมอง+จิตวิทยาอ่านใจคน+ความกล้า
บางครั้งไพ่ก็ขึ้นอยู่กับดวง และบางครั้งดวงก็ขึ้นอยู่กับใจ… อุอุอุ
จากคุณ : pommyNT

จากเกมส์นี้(ตอนบลัฟฟ์กัน) ทำให้เกิดศัพท์ภาษาอังกฤษว่า poker face
แปลว่า ตีสีหน้านิ่งๆ ด้วยแหละ
จากคุณ : นางาเสะจัง

ไพ่โป๊กเกอร์ นี่ไม่ใช่เล่นแบบอาศัยดวงนะครับ
คืออาศัยดวงด้วย แต่นิดหน่อย ที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือ
มีการจัดชิงแชมป์โลกกันทุกปีที่ลาสเวกัส แล้วแชมป์ก็จะเป็นหน้าเดิมๆ
เพราะคนที่เล่นเก่งต้องเป็นคนมีจิตวิทยาสูง
สามารถอ่านสีหน้า ท่าทางของคู่แข่งได้ว่าไพ่ดีหรือลักไก่
และในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้คู่แข่งอ่านเราออกด้วย
จากคุณ : Nenko

โป๊กเกอร์  มันสนุกตรงที่ บลัฟ กันนี่แหละครับ
เป็นเกมที่แข่งกับจิตวิทยา มากๆ เพราะอย่างนี้
พวกคาวบอยถึงชอบเล่นกันมั้งเพราะมันอยู่ที่ใจ แล้วก็กึ๋น จริงๆ
จากคุณ : Panda-baker

 

 

Someday for Somebody – วันหนึ่ง เพื่อคนหนึ่ง กันยายน 5, 2009

Filed under: เพลง — Korkai @ 6:06 pm

 

Someday for Somebody

手 を 繋 い だ り   声 を 聞 い た り
Te wo tsunaidari koe wo kiitari
Holding hands, listening to each others voices
จับมือกันบ้าง ได้ยินเสียงของกันและกันบ้าง
笑 い 合 え た ら い い な
warai aetara ii na
Laughing together, if it was possible, it would be nice.
หัวเราะด้วยกัน ถ้าเคยเป็นแบบนั้นได้คงจะดี
ど れ だ け の 人 と   め ぐ り 合 え る の だ ろ う
dore dake no hito to meguri aeru no darou
What kind of person will I happen across?
คนแบบไหนที่จะผ่านเข้ามาเหรอ
助 け ら れ た り   支 え て い た り
tasukeraretari sasaete itariBeing helped, being supported
เคยถูกช่วยเหลือ เคยถูกสนับสนุน
分 か り 合 え た ら い い な
wakari aetara ii na
Understanding each other, if it was possible, it would be nice
เข้าใจกันและกัน ถ้าเคยเป็นแบบนั้นได้คงจะดี
ど れ だ け の 心 と   触 れ 合 っ て き た だ ろ う
dore dake no kokoro to fureatte kita darou
What kind of heart did I come in contact with?
หัวใจที่ฉันเคยเชื่อมโยงมันเป็นแบบไหนกันนะ

今 の 一 秒 に 傷 つ け て 痛 み 抱 い て
ima no ichibyou ni kizu tsukete itami daite
Now, in this second, getting hurt, embracing the pain
ตอนนี้ วินาทีนี้ เจ็บปวดเหลือเกิน กอดเก็บความเจ็บนั้นไว้
今 の 一 秒 に 生 ま れ 来 る 命 を 抱 い て
ima no ichibyou ni umare kuru inochi wo daite
Now, in this second, embracing the life thatll begin
ตอนนี้ วินาทีนี้ กอดชีวิตที่ฉันจะเริ่มต้นใหม่เอาไว้
今 の 一 秒 に 永 遠 を 知 る こ と も あ る
ima no ichibyou ni eien wo shiru koto mo aru Now,
in this second, there are times when I know its for eternity
ตอนนี้ วินาทีนี้ มันเป็นเวลาที่ฉันรู้ว่ามันไม่มีวันที่สิ้นสุด
僕 ら は こ の 手 を 繋 ぎ な が ら 生 き て る ん だ
bokura ha kono te wo tsunaginagara ikiterunda
While holding hands, we are living.
ขณะที่จับมือกัน เรากำลังมีชีวิต

求 め 合 っ た り   認 め 合 っ た り
motome attari, mitome attari
Wanting each other, appreciating each other
ต้องการกันและกัน พอใจกันและกัน
伝 え ら れ た ら い い な
tsutaeraretaa ii na
If i could tell you this, it would be great.
ถ้าฉันบอกกับเธอได้ มันก็คงจะดี
ど れ だ け の 夢 を
doredake no yume wo
What kind of dream
ฝันแบบไหนกันนะ
見 つ け て 行 け る ん だ ろ う
mitsukete yukeru n darou
Will I be able to find?
ฉันจะสามารถพบมันได้ไหม
離 れ て い て も   時 が 経 っ て も
hanarete itemo toki ga tattemo
Even if were seperated from each other, Even if the time passes by,
แม้ว่าเราจะแยกทางกัน ถึงแม้ว่าเวลาได้ผ่านไป
信 じ 合 え た ら い い な
shinji aetara ii na
If we could trust each other, it would be great.
ถ้าเราเชื่อใจกันและกันได้ มันก็คงจะดี

ど れ だ け の 涙 と 向 き 合 っ て き た ん だ ろ う
dore dake no namida to muki atte kita n darou
What kind of tear do we have to face now?
เราต้องเจอน้ำตาแบบไหนในตอนนี้
To someday for somebody
To somewhere for something
ให้วันหนึ่ง เพื่อใครสักคน

今 は 出 来 な く て 苦 し く て 嘆 く こ と を
ima ha dekinakute kurushikute nageku koto wo
The painful grieving for not being able to do it(?)
ความเจ็บปวดรวดร้าวนี้เพื่อที่จะไม่สามารถทำมันได้ใช่ไหม
い つ か そ の 思 い 届 く 日 が 来 る と い い ね
itsuka sono omoi todoku hi ga kuru to ii ne
I hope the day, when these memories arrive will come someday
ฉันหวังว่าวันนั้น เมื่อความทรงจำได้กลายเป็นวันหนึ่งๆไปแล้ว
そ う さ 、 永 遠 に 同 じ 日 は 続 か な い か ら
sou sa eien ni onaji hi ha tsudukanai kara
So, because the same day wont continue in eternity,
เพราะว่าวันบางวัน มันจะไม่ได้มีเรื่อยไป ตลอดไป
僕 ら は 光 を 探 し な が ら 生 き て る ん だ
bokura ha hikari wo sagashi nagara ikiteru n da
while we are searching for the light and live on
ตราบที่เราหาแสงสว่างและมีชีวิตอยู่ต่อไป

ち っ ぽ け な 僕 も 出 来 る こ と が あ る か ら
chippoke na boku mo dekiru koto ga aru kara
There are also things I, the tiny me, can do, so
เพราะมันมีสิ่งนั้นอยู่เช่นกัน ที่คนเล็กๆอย่างฉัน สามารถทำมันแบบนั้น
こ こ か ら ど こ か へ 行 け る と き が 来 る だ ろ う か
koko kara dokoka he ikeru toki ga kuru darou ka
I wonder if I will be able to go somewhere from here
ฉันเกรงว่า ถ้าฉันจะสามารถไปที่อื่นจากที่นี่ได้ไหม

今 の 一 秒 に 傷 つ け て 痛 み 抱 い て
ima no ichibyou ni kizu tsukete itami daite
Now, in this second, getting hurt, embracing the pain
ตอนนี้ วินาทีนี้ เจ็บปวดเหลือเกิน กอดเก็บความเจ็บนั้นไว้
今 の 一 秒 に 生 ま れ 来 る 命 を 抱 い て
ima no ichibyou ni umare kuru inochi wo daite
Now, in this second, embracing the life thatll begin
ตอนนี้ วินาทีนี้ กอดชีวิตที่ฉันจะเริ่มต้นใหมเอาไว้
今 の 一 秒 に 永 遠 を 知 る こ と も あ る
ima no ichibyou ni eien wo shiru koto mo aru
Now, in this second, there are times when I know its for eternity
ตอนนี้ วินาทีนี้ มันเป็นเวลาที่ฉันรู้ว่ามันไม่มีวันที่สิ้นสุด
僕 ら は こ の 手 を 繋 ぎ な が ら 生 き て る ん だ
bokura ha kono te wo tsunaginagara ikiterunda
While holding hands, we are living.
ขณะที่จับมือกัน เรากำลังมีชีวิต

今 は 出 来 な く て 苦 し く て 嘆 く こ と を
ima ha dekinakute kurushikute nageku koto wo
The painful grieving for not being able to do it(?)
ความเจ็บปวดรวดร้าวนี้เพื่อที่จะไม่สามารถทำมันได้ใช่ไหม
い つ か そ の 思 い 届 く 日 が 来 る と い い ね
itsuka sono omoi todoku hi ga kuru to ii ne
I hope the day, when these memories arrive will come someday
ฉันหวังว่าวันหนึ่ง เมื่อความทรงจำได้กลายเป็นวันหนึ่งๆไปแล้ว
そ う さ 、 永 遠 に 同 じ 日 は 続 か な い か ら
sou sa eien ni onaji hi ha tsudukanai kara
So, because the same day wont continue in eternity,
เพราะว่าวันบางวัน มันจะไม่ได้มีเรื่อยไป ตลอดไป
僕 ら は 光 を 探 し な が ら 生 き て る ん だ
bokura ha hikaru wo sagashi nagara ikiteru n da
while we are searching for the light and live on
ตราบที่เราหาแสงสว่างและมีชีวิตอยู่ต่อไป

今 の 一 秒 に 傷 つ け て 痛 み 抱 い て
ima no ichibyou ni kizu tsukete itami daite
Now, in this second, getting hurt, embracing the pain
ตอนนี้ วินาทีนี้ เจ็บปวดเหลือเกิน กอดเก็บความเจ็บนั้นไว้
今 の 一 秒 に 生 ま れ 来 る 命 を 抱 い て
ima no ichibyou ni umare kuru inochi wo daite
Now, in this second, embracing the life thatll begin
ตอนนี้ วินาทีนี้ กอดชีวิตที่ฉันจะเริ่มต้นใหม่ เอาไว้
今 の 一 秒 に 永 遠 を 知 る こ と も あ る
ima no ichibyou ni eien wo shiru koto mo aru
Now, in this second, there are times when I know its for eternity
ตอนนี้ วินาทีนี้ มันเป็นเวลาที่ฉันรู้ว่ามันไม่มีวันที่สิ้นสุด
僕 ら は こ の 手 を 繋 ぎ な が ら 生 き て る ん だ
bokura ha kono te wo tsunaginagara ikiterunda
While holding hands, we are living.
ขณะที่จับมือกัน เรากำลังมีชีวิต

 
 

Zeni Geba (Money Crazy) คนบ้าเงิน เมษายน 16, 2009

 
Zeni Geba เป็นเรื่องราวของ กามะโกริ ฟุตาโร่ (Matsuyama Kenichi – L จาก Death Note)
จนตั้งแต่เกิด ตอนเด็กเขานั้น ไร้ค่า พ่อของเขาทำให้ครอบครัวติดหนี้มากมาย และหายตัวไป
เขาไม่มีแม้กระทั่งเงินจะมาใช้จ่ายค่ารักษาแม่ของเขา ที่ป่วยหนัก จนกระทั่งแม่ของเขาตายจากไป ตั้งแต่ที่แม่เขาจากไปเช่นนั้น
ทำให้เขาหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเงิน และพร้อมที่จะทำทุกอย่างก็เพื่อเงิน
เมื่อเวลาผ่านไป ฟุตาโร่ ทำงานที่แห่งหนึ่ง ได้พบกับลูกสาวของประธานของบริษัท ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขา
และน้องสาวของเธอที่ชื่อ อาคาเนะ (Kinami Haruka) ฟุตาโร่ ทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ครอบครองบริษัทของพ่อของพวกเธอ
และ อาคาเนะ ก็ชอบ ฟุตาโร่ ด้วย เป็นจุดเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เรื่องราวต่อไปจะเป็นเช่นไร ติดตามได้ใน Zeni Geba

 

 

ทางเลือก… เมษายน 15, 2009

Filed under: ไดอารี่ — Korkai @ 10:52 pm

ทางเลือก…

ฉันคิดว่าโลกนี้เต็มไปด้วยทางเลือกมากมาย นับไม่ถ้วน และทางทุกทางก็มักจะมีอะไรดีๆซ่อนอยู่
ในช่วงเวลาหนึ่งอาจจะมีหลายทางอยู่ในหัวให้ต้องเลือก ทุกทางมันจะดีถ้าคุณได้เลือกเอง
และจะดีที่สุดถ้ามันมาจากพื้นฐานของความชอบ ตัวตน ความต้องการ ความใฝ่ฝันของคุณ
แต่แม้บางจังหว่ะของชีวิต คุณได้เลือกทางเดิน ด้วยเหตุผลอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้

มันก็ไม่ได้แปลว่า คุณเดินผิดทาง หรือความเป็นตัวคุณได้จบลงไปแล้ว
ฉันคิดว่าทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้ จุดจบของการเดินทางก็คือวันสุดท้ายที่มีลมหายใจ

และนั่นแหล่ะที่ฉันเรียกมันว่าเส้นชัย สิ่งมีค่าสิ่งเดียวที่ฉันจะนำมันเข้าเส้นชัยก็คือประสบการณ์
ความคุ้มค่าในแบบของฉัน คือการที่ฉันได้คอลโทรลชีวิตของฉันเอง
ได้เก็บเกี่ยว ได้เรียนรู้ทั้งสิ่งที่มีอยู่และสิ่งใหม่ๆภายใต้ดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่
มีเพื่อนแท้ มีคนรัก มีครอบครัวที่อบอุ่น และได้เรียนรู้จักผู้คนในหลายๆสังคม
ฉันเห็นคนบางคนมองเห็นเส้นชัยแค่ตื้นๆ แค่ปริญญา แค่หน้าที่การงาน แค่ตำแหน่ง
และกลับมาดูถูก คนที่มาไม่ถึงเหล่านี้ว่าเขากำลังเดินผิดทาง หรือเดินในทางที่ไม่ถูกไม่ควร
แต่ฉันมองว่าสิ่งเหล่านั้นก็แค่ผลไม้ข้างทางที่บางคนอาจจะเลือกไปเดินเก็บมากิน
คนที่เขาไม่มี ก็แค่ไม่ได้เลือกจะเก็บผลไม้ชนิดนั้นมาก็เท่านั้นเอง

คนบางคนอาจจะเคยติดยา ท้องก่อนแต่ง ถึงอย่างนั้นทางเลือกในชีวิตเขาก็ไม่ได้มืดมนกว่าใคร
คนบางคนอาจจะได้เป็นนายก เป็นดร. เป็นผู้นำศาสนา ก็ใช่ว่าทางเลือกของเขาจะสดใสกว่าใคร
ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับใครเลือกที่จะมอง เลือกที่จะเชื่อยังไง
เพียงแค่คุณไม่ดูถูกทางของตัวเอง และไม่ดูถูกทางของคนอื่น แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ฉันคิดว่ามันจะช่วยลดปัญหาค่านิยม การแบ่งชนชั้นในสังคมลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
ชีวิตมนุษย์เกิดมาครั้งเดียว อะไรจะดีไปกว่าการกิน การดื่ม การสังสรรค์
กับเพื่อน กับคนที่เรารัก กับสังคมที่อบอุ่นและพึ่งพาอาศัยกัน

คนที่ฉลาดที่สุดในแบบของฉัน คือคนที่เลือกทางเดินของตัวเอง
และไม่หยุดที่จะเรียนรู้จากทางคนอื่น
คนที่จะมีความสุขได้มากที่สุด ก็คือคนที่เริ่มต้นชื่นชมกับสิ่งเล็กน้อยรอบๆตัว
เห็นคุณค่า และพอเพียง
คนที่มีสีสัน และสร้างประสบการณ์ได้มากที่สุด
คือคนที่เริ่มมองว่าโลกนี้เต็มไปด้วยทางเลือก
และคนที่ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าที่สุด คือคนที่ไม่เอาแต่บอกตัวเองว่า “ฉันคงเดินมาผิดทาง”

 

ฉันชอบ…….

Filed under: ไดอารี่ — Korkai @ 10:29 pm
ฉันชอบ……. 

ฉันชอบ..ธรรมชาติ ท้องฟ้า ทะเล ชอบโลกใบนี้ที่พระเจ้าสร้างมันขึ้นมา
แต่ถึงอย่างนั้น…ฉันก็ชอบธรรมชาติที่ถูกปรุงแต่งด้วยฝีมือมนุษย์มากกว่า
ฉันชอบดอกไม้..และชอบชมดอกไม้ในธรรมชาติ
แต่ฉันก็ยังเห็นว่า…ดอกไม้ในสวนดอกไม้ ในแปลงปลูก
หรือแม้แต่ในแจกันมันก็สะดุดตาฉันมากกว่า..
ฉันชอบท้องฟ้า ที่พระเจ้าชอบทำให้มันมีหลายสี
แต่ถึงอย่างนั้น…ฉันก็อยากให้มันมีสีที่แปลกไปกว่านั้นอีก
ฉันชอบทะเล..ชอบเสียงคลื่น และสิ่งมีชีวิตในนั้น
แต่ฉันก็ชอบมองเรือที่มนุษย์สามารถสร้างให้มันลอยบนน้ำได้มากกว่า
ฉันว่าการมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นในโลกได้มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
แต่ยังไงฉันก็มองว่า สิ่งที่สิ่งมีชีวิตบนโลกเนรมิตรขึ้นมามันยิ่งใหญ่กว่าเสียอีก

เพราะอย่างนี้ฉันถึงชอบแสงสี สถาปัตยกรรม ชอบงานที่มือมนุษย์สร้างด้วย

ฉันควรจะเรียกสิ่งเหล่านี้ที่ฉันชอบว่าอะไรดี..
ฉันจะเรียกมันว่าการทำงานร่วมกันระหว่างพระเจ้า(ธรรมชาติ)และมนุษย์ก็แล้วกัน
พระเจ้าสร้างดอกไม้ มนุษย์จัดดอกไม้ พระเจ้าสร้างต้นไม้ มนุษย์ดูแลสวน
พระเจ้าสร้างท้องฟ้า มนุษย์สร้างสิ่งที่ลอยอยู่บนฟ้า
พระเจ้าสร้างน้ำและมนุษย์ก็สร้างสิ่งที่ลอยอยู่ในน้ำ..
พระเจ้าสร้างมนุษย์และมนุษย์ก็สร้างชุมชน สถาปัตยกรรม เทคโนโลยี
เวลาที่ฉันมองออกไปในทะเลแล้วไม่มีเรือ ทะเลนั้นมันก็ขาดอะไรไป
ฉันอาจจะไม่ใช่นักอนุรักษณ์..แต่ฉันว่ามันไม่ได้ทำให้อะไรแย่ลงไปซะหน่อย
ฉันคิดว่าพระเจ้าสร้างธรรมชาติมาจำกัด..แต่กลับสร้างสีมาอย่างเหลือเฟือ
พระเจ้าสร้างมนุษย์มามีความจำกัด แต่จินตนาการก็ช่างเหลือเฟือ
และนี่แหล่ะคือสิ่งฉันชอบ และฉันเห็นว่ามันก็ลงตัว
ฉันจึงชอบเสพทุกสิ่งที่สร้างสรรค์ออกมาจากจินตนาการของมนุษย์
ภาพถ่าย ภาพวาด ที่ใส่สีสันตามจินตนาการของศิลปิน บางภาพก็เล่นสีมาอย่างจัดจ้าน
คนอื่นอาจจะมองว่า มันไม่ธรรมชาติเอาซะเลย แต่มันช่างมีคุณค่าสำหรับฉัน
ที่ฉันได้เห็นท้องฟ้าสีชมพู ดอกไม้สีฟ้า ได้เห็นต้นไม้สีรุ้ง อย่างที่ใจต้องการ
ชุมชน ร้านค้า หรือสถาปัตยกรรม ที่ยิ่งใหญ่ แปลกตา หรือตกแต่งอย่างน่ามอง
สวนสาธารณะ สวนดอกไม้ สวนผลไม้ที่น่าพักผ่อน น่าตื่นตาตื่นใจ
ฉันเชื่อว่าพระเจ้าคงมีความสุข ทุกครั้งที่มนุษย์สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆได้สำเร็จ
และใช้ชีวิตในแบบที่ใช้ทรัพยากรในโลกอย่างคุ้มค่า และเห็นคุณค่าที่สุด
ถ้าทุกคนบอกว่าดอกไม้จะสวยเวลาที่มันอยุ่คาต้น โลกนี้คงไม่มีแจกัน
และไม่มีการค้นพบว่าจัดดอกไม้ยังไงถึงจะสวย จินตนาการคงถูกปิดกั้นน่าดู
ถ้าทุกคนไม่เห็นด้วยการมีเครื่องบิน เพราะเห็นแก่นก
ความตื่นเต้นเวลามองท้องฟ้าคงลดลงไปเยอะ
ถ้าทุกคนไม่อยากให้มีอะไรลอยน้ำเพราะเห็นแกปลา
ทะเลคงว่างเปล่าสำหรับฉัน
ถ้าทุกคนหยุดก่อสร้าง หยุดคิดค้นเพราะเห็นแก่ทรัพยากร
โลกนี้คงหยุดนิ่งสำหรับฉัน
ไม่รู้สินะ..ฉันอาจจะคิดไม่ค่อยเหมือนใคร แต่นี่มันคือตัวฉัน
และฉันชอบที่โลกเป็นแบบทุกวันนี้
และไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครไม่รักโลก ไม่รักธรรมชาติ

 

ミ☻KorKäi

 

แน่ใจไหม กุมภาพันธ์ 4, 2009

Filed under: Uncategorized — Korkai @ 5:59 pm
 
..นกน้อยกำลังโบกบินสู่ฟ้ากว้าง
จะมีไหมที่สักวัน เราจะสามารถโบกบินได้เช่นนั้นบ้าง
เมื่อเราต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน เราเพียงกล่าวคำว่า
"แล้วพบกัน" ก่อนแยกทาง
ไม่แม้แต่จะนัดหมายพบกันอีกครั้งในวันพรุ่ง..
บนยอดเขา ขณะที่ฉันกำลังยิ้ม
สายลมบริสุทธิ์พัดผ่าน ยามแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ฉันกุมมือเธอด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นและอ่อนโยน
แน่ใจไหมว่า ทำไมเราจึงได้ถือกำเนิดมา ทำไมเราจึงได้มาพบกัน
ดูราวกับว่ามันจะมีเหตุผล ..โดยเหตุนี้ ณ เวลานี้ ฉันจึงกำลังอยู่กับเธอ
 

 

 

 

 

อีกที-B5 LYRICS มีนาคม 20, 2008

Filed under: เพลง — Korkai @ 4:12 pm
 
ถ้าหากว่าเธอยืนยันวันนี้..
จะไปก็อยากจะขอโอกาสอีกครั้ง..
อีกครั้งได้ไหมก่อนที่จะจบลง
ทุกอย่างที่ทั้งสองเราเคยร่วมสร้าง
อยากจะขอให้เธอลองทบทวนอีกที
ได้โปรดลองมองลงไปในใจที่ฉันมี
ลองมองไปในใจด้วยรักที่เธอเคยมี
เธอคงจะเจอเรื่องฉันและเธอกับวันคืนที่ดี
วันและเวลาเหล่านั้นยังคงอยู่
รอคอยให้เธอกลับย้อนไป
มองดูและหากเธอจะยอมเปิดใจ..
จากนั้นสุดแล้วแต่เธอตัดสินอย่างไร
ถ้าหากใจเธอที่เคยให้ฉัน..
ยังพอจะมีก็อยากจะขอโอกาสให้ฉัน..
ขอให้ฉันอีกสักทีก่อนที่จะจบลงทุกอย่าง
ที่ทั้งสองเราเคยร่วมสร้าง
อยากจะขอให้เธอลองทบทวนอีกที
ได้โปรดลองมองลงไปในใจที่ฉันมี
ลองมองไปในใจด้วยรักที่เธอเคยมี
เธอคงจะเจอเรื่องฉันและเธอกับวันคืนที่ดี
วันและเวลาเหล่านั้นยังคงอยู่
รอคอยให้เธอกลับย้อนไปมองดู
และหากเธอจะยอมเปิดใจ..
จากนั้นสุดแล้วแต่เธอตัดสินอย่างไร
ได้โปรดลองมองลงไปในใจที่ฉันมี
ลองมองไปในใจด้วยรักที่เธอเคยมี
เธอคงจะเจอเรื่องฉันและเธอกับวันคืนที่ดี
วันและเวลาเหล่านั้นยังคงอยู่
รอคอยให้เธอกลับย้อนไปมองดู
และหากเธอจะยอมเปิดใจ.
.จากนั้นก็แล้วแต่เธอ..
โปรดลองมองลงไปในใจที่ฉันมี
ลองมองไปในใจด้วยรักที่เคยมี
เธอคงจะเจอเรื่องฉันและเธอกับวันคืนที่ดี
วันและเวลาเหล่านั้นยังคงอยู่
รอคอยให้เธอกลับย้อนไปมองดู
แค่เพียงเธอจะยอมเปิดใจ..
จากนั้นสุดแล้วแต่เธอตัดสินอย่างไร
อยากจะขอให้เธอนั้นอยู่..
ให้ฉันนั้นพิสูจน์ให้ดูว่าฉันนั้นรักเธอมาก…จริง
 

 http://s10.histats.com/6.swf  

 

เนื้อเพลง คอย BOYdPOD บอย ป๊อด

Filed under: เพลง — Korkai @ 4:06 pm

 

เมื่อปิดประตู กลับมาอยู่ตามลำพังอีกครั้ง
เปิดรายการทีวี นั่งเก้าอี้ตัวเดิมๆ เหมือนทุกวัน
รอเพียงเวลาให้พ้นและผ่านไป  ทำได้เพียงเท่านั้น
ซึมๆ ลอยๆ ด้วยการรอคอย ให้จบไปอีกวัน

 ไม่รู้ว่าฉันควรทำเช่นไร  กับรักที่ไม่เห็นหนทาง
   ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง  จึงจะก้าวหน้ามากกว่านั้
    มากกว่าแค่แอบรักเค้าเท่านั้น  จนหมดหัวใจ
     แต่ไม่เคยให้เค้ารู้สักที  ความจริงข้างในที่หัวใจฉันมี

ไม่มีใครสักคน  ที่พอให้ระบายความเหงา
ในห้องที่มีเพียงตัวเรา  ที่ยังคงต้องอยู่ไปทุกวัน
รอเพียงเวลาให้พ้นและผ่านไป  ทำได้เพียงเท่านั้น
ซึมๆ ลอยๆ ด้วยการรอคอย ให้จบไปอีกวัน

 http://s10.histats.com/6.swf