เรื่องจากคุณ Penguin
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้
จริงๆแล้วโบสถ์ที่ระบุไว้นั้น ขออนุญาตใช้เรียกอีกชื่อว่าโบสถ์แซ่หวังนะครับ (ใช้ชื่อเล่นเพราะว่าผมอาจจะถูกเล่นงานได้นะครับ) …
ในฐานะที่ผมเป็นผู้บันทึกที่สัตย์ซื่อ ผมขออนุญาตอธิบายให้ฟังในมุมที่ผมเข้าใจอย่างนี้นะครับ …
เดิมที่แซ่หวังของเราได้มีปัญหาความคิดไม่ลงรอยกับสหกิจ และในสมัยยี่สิบกว่าปีก่อน
มันช่างยากมากที่จะตัดสินว่าการแตกแยกในสมัยครั้งกระนู้นเกิดจากอะไร
ในเวลานั้นโบสถ์แซ่หวังได้เริ่มมีการเติบโตทางด้านจำนวนสมาชิกอย่างมาก เกินกว่าโบสถ์สหกิจรวมๆกันเสียอีกนะครับ
ด็อกเตอร์ที่เป็น ศบ ในสมัยนั้นอธิบายว่ามันเกิดจากความอิจฉาของโบสถ์สหกิจต่อการที่พระเจ้าอวยพรโบสถ์แซ่หวังนะครับ
(จริงๆเรื่องมันซับซ้อนและที่ด็อกเตอร์บอกก็เป็นความจริงระดับนึงเลยครับ) เอาเป็นว่าเราแตกคอกันก็แล้วกันนะครับ
แต่ก็ควรจะสังเกตว่าแม้ว่าจะผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว โบสถ์แซ่หวังก็ยังมีการติดต่อสื่อสารกับคริสตจักรอื่นอยู่
แต่การติดต่อสื่อสารนั้นได้สิ้นสุดแทบสิ้นเชิง เมื่อเกิดเหตุการณ์การกบฏของอาจารย์ที่่เป็นมือขวาของด็อกเตอร์ ด้วยสาเหตุที่บอกไม่ได้นะครับ
(ลองไปถามอาจารย์คนใหม่คนเดียวดูเองแล้วกันนะครับ)
เนื่องจากว่าครั้งนี้ ความผิดบาปของด็อกเตอร์ได้ถูกเปิดโปงโดยเทปลึกลับไปยังคริสตจักรต่างๆไปทั่ว
ด็อกเตอร์ไม่ได้บอกอะไรกับคนภายใต้เพียงแต่บอกว่าท่านถูกทรยศและบอกว่านี่เป็นเหมือนกับนุ่นที่เมื่อถูกลมพัดปลิวไปแล้ว
เราก็ไม่สามารถที่จะตามเก็บมันได้ ชื่อเสียงที่สั่งสมมาก็ถูกทำลายด้วยคำพูดของคนชั่วร้าย และไม่สามารถจะเป็นเหมือนเดิมได้
ขณะนั้นเราไม่ทราบเลยว่า ความบาปของด็อกเตอร์คืออะไร
รู้แต่ว่าท่านไม่ยอมรับว่าท่านทำบาปอะไรลงไป ท่านเรียกตัวท่านเองว่าคนชอบธรรมนะครับ
ท่านเรียกร้องให้เราทั้งโบสถ์วางใจในตัวท่าน และเนื่องจากโบสถ์ก็ยังเจริญเติบโตด้านจำนวนคนอยู่ตลอดเวลา
เมื่ออธิษฐานก็เกิดการรักษาโรคอย่างอัศจรรย์ เราจึงคิดว่าในเมื่อการเจิมยังอยู่ ดังนั้นจริงๆแล้วท่านไม่น่าจะทำบาป น่าจะเป็นคนที่ไม่มีบาปเลยด้วยซ้ำครับ
สิ่งที่เราทราบคือ การติดต่อระหว่างโบสถ์เรากับโบสถ์อื่นสิ้นสุดลง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
เพราะว่าโบสถ์เรามีคนจำนวนมากมายจริงๆ จนแม้ว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆจากโบสถ์อื่น
โบสถ์เราก็สามารถอยู่ได้ และอยู่ได้อย่างเติบโตด้วยนะครับ
หลังจากนั้นด๊อกเตอร์ก็ค่อยๆถอนตัวออกไปจากการรับใช้ทุกๆอย่างของคริสตจักร
และต่อมา น้องสาวของท่านและสามีก็ก้าวขึ้นมาเป็น ศบ. แทนนะครับ ส่วนตัวท่านได้ไปทำงานอยู่เบื้องหลัง
ทำธุรกิจและงานวิชาการ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ครับ ซึ่งถัดมาก็กลายเป็นงานการเมืองครับ
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์แซ่หวังก็คือ การเรียกร้องให้สมาชิกได้ทุ่มเททุกอย่างในการรับใช้นะครับ
ดังนั้นสมาชิกที่ถูกคัดเลือกจะให้ไปทุ่มเททำงานใหญ่ของด๊อกเตอร์ด้วยนะครับ
ซึ่งเราก็ภูมิอกภูมิใจอยู่เหมือนกันที่จะได้ทำงานใกล้ชิดกับคนเก่งๆอย่างท่าน …
เป็นเวลาหลายๆปีทีเดียวที่พวกเราหลายๆคนได้ไปทำงานเบื้องหลัง
แต่สิ่งที่ผมสามารถสังเกตได้ก็คือ งานเบื้องหลังที่พวกเราต้องไปทำโดยกินเงินเดือนน้อยๆ
ก็แทบจะไม่มีกำไร ไม่ได้มีผลกระทบกับสังคมอะไร นี่ก็เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจนะครับ
ส่วนคริสตจักรหลังการออกไปของด็อกเตอร์นั้น มีลักษณะดังนี้นะครับ คือส่วนของคริสตจักรที่อยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้เติบโตขึ้นเลย
ยังมีปริมาณคนอยู่ที่เดิมตลอดสิบกว่าปี แม้จะทำงานรับใช้มากๆ คนมาเชื่อปีนึงเป็นหมื่น แต่คนก็ออกไปจากคริสตจักรปีนึงเป็นหมื่นเหมือนกันนะครับ
ส่วนที่ต่างจังหวัดนั้น ผมพบว่ามีการขยายที่ค่อนข้างสูงมากครับ การเติบโตเท่าทวีคูณของคริสตจักรแซ่หวัง เป็นการเติบโตของโบสถ์ลูกที่ต่างจังหวัดนะครับ
เวลานั้นผมสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้ไม่มีความสุข แทนที่เราจะได้รับการอวยพรจากพระเจ้า
แต่เหมือนกับพระพรถูกอัดอั้นอยู่ ไม่ได้ไหลมาหาเราเหมือนปัจจุบันนี้นะครับ เหมือนกับว่าการเจิมได้หายไปจากโบสถ์นานแล้ว
ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้โบสถ์ต้องแตกกระสานซ่านเซ็นก็คือ การเมือง นะครับ …
ทางด๊อกเตอร์ได้มีความพยายามหลายรอบที่จะให้โบสถ์สนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองของท่าน ซึ่งเราก็ช่วยเหลือท่านเป็นอย่างดี
เป็นเวลา 3 รอบด้วยกันที่เราได้ลงแรงและถวายเงินเพื่อท่านจะได้ไปมีอิทธิพลทางบวกในด้านการเมือง และในครั้งที่ 3 นี้ ฟางเส้นสุดท้ายก็ทำให้โบสถ์ต้องแตกอย่างถาวรครับ
เมื่อโบสถ์แตกแล้ว (ในทัศนะของผมนะครับ) วินาทีที่โบสถ์แตก โบสถ์ได้แตกเป็น 5 ส่วนด้วยกันคือ
– ผู้จงรักภักดีกับด๊อกเตอร์และ ศบ หุ่นเชิด
– ผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม
– ผู้ที่อยู่ตรงกลาง
– ผู้ที่แตกมาก่อนหน้านี้
– คริสตจักรลูกที่ต่างประเทศ
จริงๆแล้วเวลานั้น ดูเหมือนว่าคริสตจักรจะแยกเป็นสองส่วนหลักๆคือ ฝั่งด๊อกเตอร์ กับฝั่งตรงข้าม นะครับ
เมื่อคริสเตียนขัดแย้งกันจนโบสถ์แตก ในฝ่ายธรรมชาติเราจะเห็นว่า จะมีสงครามการแย่งชิงสมาชิก วิธีการแย่งชิงก็คือ
การชักชวนด้วยวิธีต่างๆเช่นการชวนไปฟังเทศน์ การเขียนโจมตีกันในเว็บเพื่อโน้มน้าวใจสมาชิก
จริงๆแล้วในวันนั้น มีเว็บแรกที่เป็นสมรภูมิการแย่งชิงสมาชิก แต่เว็บนั้นแตกพ่ายไปเสียก่อน
เว็บนี้เป็นเว็บที่สองที่สงครามในเวลานั้นลามมาถึง … ตัวผมในฐานะนักเขียน ก็ได้เขียนวิเคราะห์ไปตั้งมากมายพร้อมกับเพื่อนๆ แสดงถึงหลักฐานและเหตุผลต่างๆ
เพื่อหวังว่าเหล่าพี่น้องจะได้หลุดจากการครอบงำของด๊อกเตอร์ … นั่นเป็นสิ่งที่ผมกับหลายๆคนทำกันในเวลานั้น มันเป็นสงครามดีๆนี่เอง
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์